วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระหินอ่อน


ดูพระนะคะ..คนใช้เป็นสิ่งประดับภาพ..ให้เห็นว่า..พระองค์ใหญ่จริงๆ..ใหญ่ที่สุดของพม่าค่ะ..แกะสลักจากหินอ่อน..อยู่ที่เมืองย่างกุ้งอีกเช่นกัน..ก้อที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงมาพักหนึ่ง..ตอนนี้เมืองหลวงย้ายไปสร้างใหม่..ที่เนปิดอว์..ลืมถามว่า..ดอว์นี่หมายถึงอะไร..ขนาดคุณนายของนายพล..ยังมีคำว่า..ดอว์..ต่อท้าย..คุณนายคนไทย..ไม่อยากเป็นเลย..ก้อเราคนไทย..แต่พม่าเขาว่าดี..เข้าวัดพม่าต้องเดินเท้าเปล่า..และต้องคอยหลบน้ำหมากที่เขาบ้วนทิ้งไว้..แต่ศรัทธาของเขา..การทำบุญของเขาดีจริงๆ..คนไทยทิ้งไปเมื่อไรก้อไม่รู้

พระนอนตาหวาน


คราวที่แล้วพระยิ้มหวาน..คราวนี้พระตาหวาน..พระพุทธรูปนะ..ตาหวานดีจริงๆ..ขนตางี้งอนเด้งเลยนะ..ไกด์บอกว่าทำตาตั้งสามหนแน่ะถึงจะถูกใจ..ทำสองครั้งแรกจีนมาทำให้..ไม่โอเค..ไม่สำเร็จ..ต้องทำพิธีบวงสรวงด้วยนะ..คราวนี้พม่าจัดการเอง..ได้พระนอนที่มีดวงตาที่สวยที่สุด..สวยจริงนะ..แบบบิ้กอาย..ด้วยนะ..รึว่า..คอนแทคเลนส์..ก้อตาสีฟ้าแจ่ม..พม่าเรียก..เจาทัตยี..ออกเสียงไม่ถูก..เป็นว่าพระตาหวานแล้วกัน..อยู่เมืองย่างกุ้ง..เขาแปลว่า..ศัตรูไม่มี..หรือไม่มีศัตรูแล้ว..เพราะได้เอกราชแล้ว..ถ้าเป็นไทย..ก้อ..อร่อยสิ..

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระนอนยิ้มหวาน


พระนอนที่เขาว่ายิ้มหวาน..ช่างคิดกัน..ก้อพระนอนทับกล่องสมบัติ..ตั้งมากมาย..แต่กล่องนั่น..สวยจริงๆๆๆๆ..อยู่หงสาวดี..เมืองเราไม่เห็นมีแบบนี้..ไกด์บอก..ถ้าเป็นทัวร์ไทย..ดูวัด..นอน..5..ดาว..กินดี..ถึงว่า..ไปเที่ยวมาทีไร..เข็มขัดใช้ไม่ได้..แล้วก้อเข้าทางคนไทยอีก..ที่ซุ้มทางเดินเข้าวิหารพระนอน..เป็นสถานที่ขายของที่ระลึก..ตอนแรกไกด์บอก..ใครจะซื้อของที่นี่ต้องถอดรองเท้านะครับ..ทำเอาจะไม่ลงรถ..ที่ไหนได้..ไหว้พระแป๊บเดียว..เดินเลือกของตั้งนาน..ปรากฏว่า..ของที่นี่ถูกกว่าตลาดอองซานเซ หรือตลาดสก็อตอีก..ไม่ว่าที่ไหนก้อซื้อกันเพลินแหละ..ไม่ว่าจะเป็นเงินไทยหรือเงินจ๊าด..ร้านไหนไม่รับเงินไทย..เป็นหาตัวไกด์พม่าจ้าละหวั่น..ได้คนละหลายอย่างเชียวเป็นที่ชื่นใจ..ไปถึงไหนคนไทยต้องไปช่วยเศษฐกิจเขาทุกที..อย่างนี้แสดงว่า..การประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวไทยได้ผลดี..มาก

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระธาตุอินทร์แขวน


ประทับใจมากๆๆๆ..เมื่อมาถึงพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่า..มองเห็นตั้งแต่อยู่ระยะไกล..ระยะกลาง..ระยะใกล้..จนใกล้ที่สุดที่เขาอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าใกล้ได้..เป็นหญิงไม่มีสิทธิแตะก้อนหินที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุได้เลย..นั่งสมาธิอยู่หลายจุด..จุดที่ทำให้เกิดปิติมากที่สุดเป็นจุดที่ใครๆก้อมาจุดเทียนธูปบูชา(ผู้หญิง)..สมาธิดิ่งดีจริงๆ..ประทับใจอีกอย่างคือที่พม่านี่..มีสายลูกประคำแขวนไว้..ให้ใครก็ได้ที่อยากจะสวดมนต์แบบนับลูกประคำ..ได้มีโอกาส..คนเดินไปมาพลุกพล่าน..ถ้าเราใจจรดจ่อกับการนับลูกประคำ..โลกตอนนั้นมีแต่ตัวเราที่นับลูกประคำอยู่..ไม่มีความรำคาญหรือรู้สึกรำคาญใครๆเลย..ใจนิ่งกับคำภาวนาและลูกประคำเท่านั้น..อ้อ..เขาทำเพื่ออย่างนี้นี่เอง..คำตอบมาเลยนะ..ท่องเฉยๆก็ได้??..ไม่ต้องให้ใครอธิบายแล้วละ..แต่การขึ้นไปถึงพระธาตุนี่..ทางแม่ฮ่องสอนว่าเป็นริบบิ้นแล้วนะ..ที่นี่เป็นแบบริบบิ้นผูกโบว์..เลยนะ..ทางชันแค่ 45 องศาเองนะ..ดีใจที่ได้มากราบหนึ่งในห้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า..คนพม่าไปกราบกันมากๆๆๆทุกวันเลยนะ..ขนาดขึ้นไปปูเสื่อนอนในบริเวณรอบๆพระธาตุ..แล้วเดินลง..มาขึ้นรถขนหมู..ที่แน่นๆๆๆ..ไม่ต้องขยับ..คนไทย..นั่งเสลี่ยงค่ะ