วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

ตลาดร้อยปีเนื่องเขต

มาเยือนถิ่นเก่า..ตลาดเนื่องเขต...หลังจากลาไปแค่ 2 ปี..อืมม์..มีอะไรๆแปลกตาอยู่หลายจุด...เข้าตลาดไป..เจอขนมไทยๆ..จอดซื้อกันใหญ๋บรรดาคุณน้าทั้งหลาย..ซื้อแบบไม่ดูกำลังท้องเลย...แล้วเดินหิ้วถุง..กันไป..วัยนี้ไม่กล้าเดินกินหรอก..โดยเฉพาะครูอรพิณ..เพราะเดี๋ยวเจอลูกศิษย์แน่ๆ..บางคนยังเล็งแล้วเล็งอีก..อ้าวครูอยู่แปดริ้วเหรอคะ/ครับ ?..ค่ะ..ครูเป็นลูกครึ่ง..อยู่สองภาคเลยค่ะ..ไปๆมาๆ...เดินเลี้ยวซ้ายก่อนจะพาเพื่อนๆไปดูสี่แยกท่าไข่..อ้าว..ป้ายหายค่ะ..เดินย้อนมานั่งกิน..ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อบ้านเลขท่ี ๑ ..แถวนั้นย่อมรู้ว่าบ้านใคร...แต่คนขายสิ..เขาประกาศขายมาแล้ว ห้าปี..โห..นี่ข้าพเจ้าจากที่นี่ไปห้าปีแล้วเหรอ...หนูจ๋า..เพิ่งจากแค่สองปีจ้ะ...ยังไม่เลอะเลือนเลยจ้ะ..หนูพูดไทยยังไม่ชัดเลย...แล้วเดินข้ามสะพานไปฝั่งโน้น..เจอของกินแปลก..โป๊ะสด..ก็..ปลาบดละเอียดทอดกรอบ..อร่อยดี...เดินกันเพลินๆ..จนครบตลาด..ได้ของกินมาเพียบ...แบบที่ชอบ..ขอให้ตลาดเนื่องเขต..เจริญ.ขายของดี.ฉะเชิงเทราจะได้มีที่ท่องเที่ยวที่น่าเดิน..น่าเที่ยว..อีกแห่งหนึ่ง..ใกล้ๆเมือง..ใครว่าง..ไปเดินๆๆ..แล้วจะชอบใจบรรยากาศของตลาดโบราณเนื่องเขต...

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

กฐินทางเรือวัดพิกุลวนาราม

ความประทับใจทางน้ำในปี พ.ศ.๒๕๕๕ นอกจากล่องแพต้นน้ำชุมพรที่พะโต๊ะแล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสทอดกฐินทางเรือ..ลงเรือที่ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง ไปทอดที่วัดพิกุลวนาราม อ.บ้านสร้าง ปราจีนบุรีไปโดยรถยนต์น่าจะเร็วกว่า..นั่งเรือตั้งสามชั่วโมงกว่า..แถมน้ำมันเรือหมดไปตั้งสามพันห้าร้อยบาท..แต่...ได้บรรยากาศ..ยังสงสัยว่าตรงไหนเริ่มเป็นแม่น้ำบางปะกงและสิ้นสุดแม่น้ำปราจีนบุรี..คราวนี้ได้เห็นท่านองคมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย แต่ละคนน่ารัก..ไม่ถือตัว..ชาวบ้านสร้างแถวๆนั้นรอดูการ แข่ง speed boat รวมทั้งพระเณร..รอกันเต็มฝั่งที่วัด

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

ล่องแพ

วันนี้วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ นั่งทบทวนปี่ที่แล้วสิ่งไหนเด่นมากในใจ..การเดินทางทางน้ำนี่เอง..น้ำไหลเอื่อยๆบางระยะ..แต่ถ้าผ่าน โขดหินที่ขวางทางน้ำ..ความเร็วน้ำจะเปลี่ยนไป..แบบเร็วขึ้นตามความลาดชัน..นี่ไม่ใช่การล่องแพครั้งแรก..ครั้งแรกนั่นที่ลำน้ำเข็ก จ. พิษณุโลก..ระทึกใจ..เพราะต้องไปยืนรอแพกลางแก่งน้ำเซาะสาดแรงๆ..ครั้งนี้ที่พะโต๊ะ..ต้นน้ำชุมพร..ทำไมต้องใส่ชูชีพด้วยนะ..น้ำเอื่อยไหลรินๆ นั่งกันนานเกือบๆสามชั่วโมง..แพทำด้วยท่อพีวีซี ขนาด 6 นิ้ว ปิดหัวท้ายด้วยฝาของพีวีซีน่ะแหละกลมๆแบบฝาขวดทั่วๆไป..แพที่นั่งคงใช้งานมานาน...นั่งๆไป..เอ..ทำไมก้นเปียกนะ..นั่งไปอีกสักพัก ไอ้หนูคนถ่อแพอายุสัก 14 ปี เพราะอยู่ม.2 เอง..บอกว่า..ช่วยไปนั่งแพโน้นสักคนได้ไหมครับ?...แพเราล้าหลังเรื่อยๆ..แต่แพสุดท้ายยังไม่เข้าโค้งสักที..ปรากฏว่า..แพสุดท้ายที่ไม่โผล่กระแทกกับแก่งหิน...แพหัก..คนบนแพได้รับบาดเจ็บ..มีรถมารับกลับไปรอที่ร้านอาหารแล้ว...ถ้าไม่มีชูชีพ..เพื่อนบางคนอาจจะไปกับสายน้ำเอื่อยๆนั่นแล้ว..ประมาทไม่ได้เลยนะ..น้ำ..ใครจะเที่ยวทางน้ำควรสวมชูชีพให้เรียบร้อยนะคะ