วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ถ้ำเขาบิน

ถ้ำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ไกด์ และเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ให้ความรู้ว่าสวย...สวยเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย..ทุกคนถามถึงอันดับที่ 1 และ 2 ได้ความว่า.. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล เป็นที่ 1 รองลงมาอันดับที่ 2 ได้แก่ ถ้ำผีแมน แม่ฮ่องสอน..ที่ 2 นี่แหละจำแม่นก็อรพิณเป็นคนแม่ฮ่องสอนนี่คะ..แถมเคยเอาหัวโหม่งหินย้อยจนหัวปูดมาแล้ว..ทั้ง 3 ถ้ำ..เป็นถ้ำหินงอก หินย้อย..การเรียงลำดับนี่ได้จากเจ้าหน้าที่..เปิดดูในเวปไซต์ต่างๆ..ไม่ปรากฏ..การจัดลำดับ..ทุกถ้ำถ้ามีโอกาสควรไปดู..สวยจริงๆ..แถมมีไกด์นำทาง..ไม่ต้องกลัวหลงทาง..ถ้ำที่เห็นนี่.. ภาพนี้..ถ้ำเขาบิน..ราชบุรีค่ะ

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กราบพระศพพระสังฆบิดรไทย

วันที่ 28 ตุลาคม 2556 ได้ร่วมในพิธีอภิสัมมาคารวะสมเด็จพระสังฆราช (สมเด็จพระญาณสังวร)ที่ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำภู กทม. วันนั้นไปถึงประมาณ 09.00 น เดินเข้านั่งในศาสลารอไม่ถึง 5 นาที ก็ได้เข้ากราบพระศพที่ตำหนักเพชร เจ้าหน้าที่ให้เข้าแถวเรียงสี่หน้ากระดานเข้าศาลา..ไม่มีการอ้อยอิ่ง..พนมมือยืนนิ่ง..นั่งลง..กราบ... กราบ..กราบ...ลุกขึ้น..ออกซ้ายมือเลยครับ..รับจากพระคนละชุดนะครับ..ยังจำคำบอกได้แม่น..แล้วลงจากศาลา..แบบยังอยากอยู่..จากนั้นเดินไปชมนิทรรศการ "พระชันษา ๑๐๐ ปี สดุดีพระสังฆบิดร" เป็นพระประวัติผลงาน การดำรงชีวิต ของสมเด็จ..ที่ประทับใจในทุกเรื่อง..

เกษียณอายุครูอุทัย วิจิตรวงษ์

วันที่ 17 - 18 ตุลาคม 2556 ได้มีการเลี้ยงเกษียณครูอุทัย (ครั้งหนึ่งเคยรับราชการท่ีเบญจม 3) ที่ราชบุรี

วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อุโบสถสีทอง

วัดปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา มีอุโบสถสีทอง...แวววาว..มีศิลปงานปั้นที่อ่อนช้อยงดงาม..เป็นสถานที่ท่องเที่ยว..เป็นสถานที่ทำบุญให้ใจสงบ..อีกฝั่งของแม่น้ำมีสถูปพระเจ้าตากสินจัดเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน..

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กินเจ

ต่อจากเทศกาลไหว้พระจันทร์(ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10) หมดเดือนสิบ..วันแรกขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11..เริ่มเทศกาล "กินเจ" เรียกง่ายๆว่า กินผัก แต่ยังมีข้อยกเว้นผักอีก ห้าชนิด ที่รู้จักกันดีในไทย..เป็น หอม กระเทียม ผักชี...และข้อห้ามที่ขึ้นชื่อ..คือห้ามทะเลาะกัน..ห้ามนินทา..นอกนั้นข้อปลีกย่อย..แต่ละชุมชน..จะต่างๆกันไป...ช่วงนี้..ท้องอืด.. ต้องอาศัย "ยาหอม" กันหลายขนาน..ก่อนจะเริ่มเทศกาล กินเจ มีการล้างท้อง..หมายความว่า..กินเจก่อนหน้าเทศกาล..เพื่อให้ร่างกายบริสุทธิ์ปราศจากเนื้อสัตว์..เพื่อต้อน รับ "เทพเจ้า" ที่จะเสด็จมาประทับทรงในโลกมนุษย์..เมื่อเริ่มเทศกาลได้ 3 วัน นิยมไปไหว้เจ้าที่โรงเจ แต่งชุดขาว ไปร่วมพิธีสวดมนต์ เดินธูป (คล้ายเวียนเทียน แต่ถือธูป หนึ่งดอก เดินเวียนตามพระที่นำไปรอบสถานที่ท่ีกำหนด 3 รอบ) แต่บางคน ทำพิธีทั้ง 9 วัน วันสุดท้ายจะเลิกกินเจ..ต่อเมือส่งเสด็จ "เจ้า" ขึ้นสวรรค์..ปีนี้เจ้าขึ้นสวรรค์ใน วันที่ 14 ตุลาคม (ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 11) เวลา 09.30 น (โรงเจเม่งเต๊กเจตั๊ว บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา)

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เกษียณ2556

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 3 ชนะสงสารวิทยา ได้จัดงานเลี้ยงเกษียณให้แก่ อ.วรวัฒน์ รัตนา ครูใจดี..มีผู้ร่วมงาน..ร่วมใจ..ไปแสดงความ...ทั้งอาลัยในการสิ้นสุดการทำงานในระบบราชการ..และยินดีที่จะได้มีเวลาทำอะไรๆ...ตามใจชอบ..อย่างไม่มีกำแพงเวลา...ขอให้มีความสุขนะคะ..

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

ครูชนะสงสารวิทยาร่วมใจที่วัดทด

8 กันยายน 2556 พระสุมนต์เชิญครูๆๆๆๆไปร่วมทำบุญโครงการบวชพระ...หนึ่งแสนรูป..อิ่มบุญไปตามๆกัน..อ้อ..อิ่มท้องด้วยจ้ะ..

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดอยกองมู

ดอยกองมู จุดเด่นของแม่ฮ่องสอน ไม่ว่าจะเดินทางมาจากทางบกหรืออากาศถ้าเห็น ดอยกองมู แสดงว่า..นี่แหละเมืองสามหมอกละ..ดอย..แปลว่า..ภูเขา กองมู..แปลว่า..เจดีย์ ก็คือภูเขาที่มีเจดีย์..จริงๆ เรียก "หลอยกองมู" ในภาษาไทใหญ่ ..หลอย คือ ดอย ..เจดีย์ คือ กองมู..ที่นี่เราใช้ภาษาไทใหญ่..แต่ก็อยู่ในภาคเหนือ..หลอยจึงเป็นดอยในภาษาเหนือ..คนต่างถิ่นเหมารวมกันว่าคนเหนือต้องพูดอย่างนั้น...ในภาพเห็นแม่ฮ่องสอนเกือบทั้งเมือง..คนถ่าย..ยอดเยี่ยมมาก..เสี่ยงตายไปถ่ายบนเสาโทรคมนาคมที่อยู่ยนยอดดอยใกล้ๆนั้น..มาถึงคำว่า "เมืองสามหมอก" แต่ก่อนโน้น..ไม่นานนักหรอกแค่สี่สิบปีที่ผ่านมา..แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองปิดป่าไม้อุดมสมบูรณ์..หน้าหนาว..มีหมอกจริงๆ..หน้าฝนมีหมอกฝน..หน้าร้อนมีหมอกควัน.. เมืองยังสงบ..จอดรถทิ้งไว้..ได้สบายๆๆๆ..และตอนนี้ก็ยังมีหมอกครบ..

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พระอาจารย์จำเนียรวัดถ้ำเสือ

วันนี้พุธที่ 31 กรกฎาคม 2556 ดีใจมากที่ได้กราบพระอาจารย์จำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่..ท่านมาโปรดลูกศิษย์ชาวฉะเชิงเทรา..มาถึง..ท่านให้ธรรมในการปฏิบัติเพื่อให้ ตัวของเราอยู่ในปัจจุบันอย่างใจสงบ...โดยมีข้อปฏิบัติ 5 ข้อ คือ ไม่โทษตัวเอง ไม่น้อยใจตัวเอง ไม่โกรธตัวเอง ไม่ประชดตัวเอง..เพราะจะทำให้ตัวเองหดหู่ จิตตก และต้องทำใจให้ขาว สะอาด..ท่านบอกน่ะดูง่าย..แต่ทำได้ไหมหนอ...ท่านมาประมาณหนึ่งชั่วโมง..แต่ธรรมะที่ลูกศิษย์ได้มากมายจริงๆ ท่านปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย..เช่น อย่านั่งเกินไป เวลาเดินต้องพยายาม ให้มีน้ำหนักอยู่ในมือ...ถือของน่ะแหละ..ร่างกายโดยเฉพาะกระดูกจะได้แข็งแรง...จริงนะข้อนี้ทางการแพทย์รับรอง..ท่านมาให้กำลังใจจริงๆ..

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จอร้าย..จอตา

ปัจจุบันคงไม่มีใครเชิญชวนให้ดูหนังสี่จอ...แต่..สี่จอ..ปัจจุบันนี้ทำร้ายทำลายสายตาของเราอย่างมากมาย..ยิ่งอยากรู้อยากเห็น..มากเท่าไร..เรายิ่งใช้สายตาจ้อง...จอทั้งสี่..อย่างนาน..โดยกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า..คนไทยจ้องจอทั้งสี่นานเกินวันละ ๑๐ ชั่วโมง...ได้แก่จอทีวี จอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ สุดท้ายแทบเล็ต..สี่จอนี้ทำให้เกิดอาการ..เมื่อยตา..ตาแห้ง..ตาเคือง.. ตาแสบ..ตาพร่า แพ้แสง ..ต่อมา..ปวดตา..ปวดหัว..นี่ขนาดนี้แล้ว..เราต้องลดชั่วโมงการใช้..ปัจจุบันมีการเข้าคอร์สดีท้อกซ์จอ...ใครเข้าค่ายนี้..ต้องปราศจากทั้งสี่จอ..ต้องฝากไว้กับผู้จัดการอบรมเลยนะ...เราทำเองดีกว่า..แค่ใช้ลดลงจากเดิมให้ได้ถึงครึ่งหนึ่ง...เคยจ้อง ๑๐ ชั่วโมง ก็ให้เหลือแค่ ๕ ชั่วโมง...จะได้รักษา...ตา...ให้อยู่กับเรานานๆ..ข้อสำคัญไม่ต้องเสียตังค์เข้าค่าย.. จะให้ดีกินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ เน้นพืชผักสีเขียวเหลืองแดง..รวมผลไม้..ตามที่เคยเรียนในวิชาสุขศึกษา..ได้สายตาแจ่มใส..หัวสมองปลอดโปร่ง..ความจำดีด้วยนะ (ขอบคุณข้อมูลจาก มุมสุขภาพโดยส้มโอมือในขวัญเรือนฉ.999)

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ป๋างอุ๋ง

ป๋างอุ๋ง....ตอนนี้เป็นสถานที่ยอดนิยม..ยอดฮิต..ของการเที่ยวแม่ฮ่องสอน..ไม่ว่าจะไปฤดูใด..ร้อน..ร้อนมาก..ร้อนที่สุด..ก็เมืองไทยมีสามฤดูนี้แหละ..จุดที่ถ่ายนี่เป็นที่นิยมแต่เป็นอันดับรองลงมาจาก..บึงน้ำกว้างๆ..แถมหงส์อีกสักตัวสองตัว..นั่นเป็นจุดยอดฮิต....ป๋าง..ปาง..แคมป์..คือสิ่งเดียวกัน..อุ๋ง...แปลว่าเป็นเลน..เฉอะๆแฉะๆ..แบบโคลนเลน..นั่นละอุ๋ง..แสดงว่าที่แถบนี่...มีส่วนที่เป็นดินเลนลื่นๆ..แต่ไป..ไม่เห็นอย่างที่ว่า..เห็นแต่น้ำๆๆๆๆ...ดอยๆๆๆๆๆ..ที่เพิ่มมา..ป้ายๆๆๆๆๆ....และสิ่งก่อสร้าง....อืมม์..เวลาเปลี่ยน..สถานที่ก็เปลี่ยน..นะ

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

สังสรรค์ศิษย์เก่ารุ่นม.1/2524

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 ครูเก่า 7 คน ได้แก่ ครูรัตนาภรณ์ ครูอรพิณ ครูสุเบดา ครูสุกัญญา ครูอรวรรณ ครูชวนพิศ และครูกมล ได้มาพบกันที่ร้านบุรีมายาช่วงเที่ยง เพราะนักเรียนชนะสงสารวิทยาที่เรียนในช่วงปีการศึกษา 2524-2526 ได้นัดพบสังสรรค์รุ่นกัน..นักเรียนมากัน 30 คน ไม่รวมลูกๆหรือคู่ครองที่มาด้วยกัน...อื้อฮือ..นักเรียนบางคนแซงโค้ง..ล้ำหน้าครูไปแล้ว..อะไรกัน..เราจากกันไปแค่ 30 ปี..ชายก้อหัวล้าน..หญิงก้อขยายหุ่นอย่างไม่รอครู..แล้วปรากฎว่า..ครู 7 คน เสียงดังกว่าลูกศิษย์..ที่ครูๆดีใจกัน..เพราะลูกศิษย์ที่มาต่างเล่าขานถึงตัวเอง..ถึงเพื่อนที่ไม่ได้มา..ต่างมีหลักฐานมั่นคง..มีครอบครัวที่อบอุ่น..แล้วยังเล่าความหลังครั้งกระนั้น...ผมต้องยืนกอดต้นเสา..เสาธง..ต้นคูณ..บางคนบอกผมยังไม่ได้แก้ 0 เลยครับ สามสิบปีผ่านไป..ที่เห็นปุ๊บเรียกชื่อได้ปั๊บมีสองสามคน..จ้องหน้าสักพักเรียกชื่อได้อีก..แต่ที่จ้องแล้วจ้องอีกรายงานตัวแล้ว..ครูยังตาลอยก็มี..อย่าว่าแต่ครู..นักเรียนก็นึกชื่อครูไม่ออก..เวลากลืนกินสรรพสิ่งจริงๆนะนี่...แต่วันนั้น..ดีใจมากที่เจอนักเรียนและชื่นใจมากที่เด็กๆยังรักกันเหนียวแน่น..ยังรวมตัวกันตามงานต่างๆเสมอ...

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันมาฆบูชา

วันนี้วันสำคัญทางพุทธศาสนา..วันเพ็ญเดือนสาม..วันมาฆบูชา..ถ้าวันที่มี..บูชาต่อท้าย..ต้องมีการเวียนเทียนที่วัดในช่วงเย็น..ปีนี้เริ่มต้นที่..ช่วงเช้าไปทำบุญตักบาตรที่วัดใกล้บ้าน....วัดบางพระ..ชอบวัดนี้..คนเยอะก็จริงแต่เป็นระเบียบเรียบร้อย..ซื้อข้าว แกงส้มมะรุม แกงดอกจาก ข้าวเหนียวหน้ากุ้งและหน้าสังขยา..จากลานวัดไปใส่ลงในบาตร..ในถ้วยที่ทางวัดเตรียมไว้ให้...แล้วไปกราบพระประธาน จุดและปักเทียนธูป วางดอกไม้ลงในพานหน้าพระพุทธรูป..ต่อไปเดินไปทำบุญหยอดตู้ค่าน้ำ ค่าไฟ การศึกษา และกัณฑ์เทศน์..อ้อมีอีกขันหนึ่งคือ..สวดปาฏิโมกข์..มาทีไรทำอย่างนี้ทุกที..ช่วงเย็นไปเวียนเทียนที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร..ประจำอีกเช่นกัน..เวียนกันเองไม่รอพระนำ..ไม่รอตามเวลาที่ทางวัดกำหนด ๑๙.๐๐ น เดินเวียนกันไปพร้อมกับคนอื่นๆอีกหลายสิบคน..ยิ่งค่ำคนยิ่งมากจนเดินเป็นวงไม่ขาดสาย..ครบสามรอบไม่มีการส่งเสียงดัง..ทุกคนนึกคำสวดอยู่ในใจ...เดินครบสามรอบเกือบ 40 นาที..วันนี้ได้ดังที่ตั้งใจทำเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาแล้ว...สาธุ

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เล็บมือ..ความเชื่อ

เล็บทั้งที่มือและเท้า..ทุกคนมีแน่นอน..เล็บยาวขึ้นๆทุกวัน..บางคนชอบบางคนรำคาญ..คนชอบก็ตกแต่งให้สวยงามตามแต่จะคิด..คนรำคาญก็หาเครื่องมือสารพัดมาตัดเล็บทิ้ง..ชาวพุทธทั่วๆไป..เชื่อในสิ่งพระพุทธองค์สอน..พร้อมเมื่อไร..นั่นคือฤกษ์ดี..เล็บยาวเกะกะตัดเสีย..สบายมือ...แต่ยังมีผู้ที่ถือ..ถือ..ถือ..ไม่ยอมวาง..โดยเลือกตัดเล็บเฉพาะวันที่คิดว่าดี..ต่อตนเอง..เท่าที่รวบรวมมาได้ดังนี้ ( ห้าม...ตัดเล็บวันอังคาร..จะเสียทรัพย์ ห้ามตัดเล็บวันพฤหัสบดี..จะมีแต่เรื่องยุ่ง ห้ามตัดเล็บวันเสาร์..สุขภาพจะไม่ดี ห้ามตัดเล็บวันพระ...อายุจะสั้น..) วันอื่นๆดีทั้งนั้น...นี่เป็นความเชื่อของคนกลุ่มหนึ่งที่แนะนำกันมา..เราจะเข้าอยู่ในกลุ่มหรือไม่??...ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเราเอง...

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันตรุษจีน

วันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นวันตรุษจีน..คือวันปีใหม่ของชาวจีน..เมื่อวานตอนเช้าไหว้เจ้า..สายหน่อยไหว้บรรพบุรุษ..บ่ายไหว้ผีไม่มีญาติหรือที่เรียกกันว่า "หอเฮียตี๋"...วันนี้ตระเวณไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละครอบครัวนับถือ..คนแปดริ้วไหว้เจ้าที่ศาลหลักเมืองก่อน...แล้วไปกราบหลวงพ่อโสธร..ปัจจุบันคงเพิ่มที่วัดสนานรัตนารามอีก..ขอให้ทุกคนมีความสุข..ร่ำรวยเงินทอง...สุขภาพแข็งแรง..เดินทางปลอดภัย...ตลอดปี

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เป็น..ฉัน

ตรวจดูหน่อยนะ..ว่าเป็นอย่างที่ "เขา" กล่าวจริงไหม...นี่เป็นการระบุนิสัยส่วนตัวที่ทำนายทายทักจากการ "กิน" แบบใครๆ..ก็เห็น..คงไม่มีใครแอบกินของอร่อยๆแบบมิดชิดแน่...ต้องกินโชว์..ตามร้านต่างๆ..กินร่วมกับเพื่อนๆ - ชอบไอศครีมรสช๊อคโกแลต..เป็นคนพิถีพิถัน ช่างเลือก ชอบความหรูหรา ใช้ของแบรนด์เนม และช่างฝัน - ชอบไอศครีมรสสตรอเบอรี่...เป็นคน..มองโลกในแง่ดี..แต่ขี้หวง.. - ชอบไอศครีมช๊อคโกแลตชิป...เป็นคนชอบเอาชนะ ..ฉันต้องเด่น กระตือรือล้น - ชอบไอศครีมรสกะทิ...เป็นคนสันโดษ สบายๆ ชอบคนน้อยๆ บางทีชอบอยู่คนเดียว - ชอบไอศครีมรสวนิลา...เป็นคน..เฮฮาปาร์ตี้ ชอบของใหม่ อิอิ เจ้าชู้ - ชอบไอศครีมรสกาแฟ...เป็นคน..รับผิดชอบสูง รักใครรักจริง..แต่แข็งนอก อ่อนใน - ชอบไอศรีมรสผลไม้...เป็นคน..คาดหวังสูง เจ็บง่าย ทุกข์ง่าย แต่กล้าหาญนะ (ขอบคุณ Good food Good life )

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

ตลาดร้อยปีเนื่องเขต

มาเยือนถิ่นเก่า..ตลาดเนื่องเขต...หลังจากลาไปแค่ 2 ปี..อืมม์..มีอะไรๆแปลกตาอยู่หลายจุด...เข้าตลาดไป..เจอขนมไทยๆ..จอดซื้อกันใหญ๋บรรดาคุณน้าทั้งหลาย..ซื้อแบบไม่ดูกำลังท้องเลย...แล้วเดินหิ้วถุง..กันไป..วัยนี้ไม่กล้าเดินกินหรอก..โดยเฉพาะครูอรพิณ..เพราะเดี๋ยวเจอลูกศิษย์แน่ๆ..บางคนยังเล็งแล้วเล็งอีก..อ้าวครูอยู่แปดริ้วเหรอคะ/ครับ ?..ค่ะ..ครูเป็นลูกครึ่ง..อยู่สองภาคเลยค่ะ..ไปๆมาๆ...เดินเลี้ยวซ้ายก่อนจะพาเพื่อนๆไปดูสี่แยกท่าไข่..อ้าว..ป้ายหายค่ะ..เดินย้อนมานั่งกิน..ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อบ้านเลขท่ี ๑ ..แถวนั้นย่อมรู้ว่าบ้านใคร...แต่คนขายสิ..เขาประกาศขายมาแล้ว ห้าปี..โห..นี่ข้าพเจ้าจากที่นี่ไปห้าปีแล้วเหรอ...หนูจ๋า..เพิ่งจากแค่สองปีจ้ะ...ยังไม่เลอะเลือนเลยจ้ะ..หนูพูดไทยยังไม่ชัดเลย...แล้วเดินข้ามสะพานไปฝั่งโน้น..เจอของกินแปลก..โป๊ะสด..ก็..ปลาบดละเอียดทอดกรอบ..อร่อยดี...เดินกันเพลินๆ..จนครบตลาด..ได้ของกินมาเพียบ...แบบที่ชอบ..ขอให้ตลาดเนื่องเขต..เจริญ.ขายของดี.ฉะเชิงเทราจะได้มีที่ท่องเที่ยวที่น่าเดิน..น่าเที่ยว..อีกแห่งหนึ่ง..ใกล้ๆเมือง..ใครว่าง..ไปเดินๆๆ..แล้วจะชอบใจบรรยากาศของตลาดโบราณเนื่องเขต...

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

กฐินทางเรือวัดพิกุลวนาราม

ความประทับใจทางน้ำในปี พ.ศ.๒๕๕๕ นอกจากล่องแพต้นน้ำชุมพรที่พะโต๊ะแล้ว เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสทอดกฐินทางเรือ..ลงเรือที่ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง ไปทอดที่วัดพิกุลวนาราม อ.บ้านสร้าง ปราจีนบุรีไปโดยรถยนต์น่าจะเร็วกว่า..นั่งเรือตั้งสามชั่วโมงกว่า..แถมน้ำมันเรือหมดไปตั้งสามพันห้าร้อยบาท..แต่...ได้บรรยากาศ..ยังสงสัยว่าตรงไหนเริ่มเป็นแม่น้ำบางปะกงและสิ้นสุดแม่น้ำปราจีนบุรี..คราวนี้ได้เห็นท่านองคมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย แต่ละคนน่ารัก..ไม่ถือตัว..ชาวบ้านสร้างแถวๆนั้นรอดูการ แข่ง speed boat รวมทั้งพระเณร..รอกันเต็มฝั่งที่วัด

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

ล่องแพ

วันนี้วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ นั่งทบทวนปี่ที่แล้วสิ่งไหนเด่นมากในใจ..การเดินทางทางน้ำนี่เอง..น้ำไหลเอื่อยๆบางระยะ..แต่ถ้าผ่าน โขดหินที่ขวางทางน้ำ..ความเร็วน้ำจะเปลี่ยนไป..แบบเร็วขึ้นตามความลาดชัน..นี่ไม่ใช่การล่องแพครั้งแรก..ครั้งแรกนั่นที่ลำน้ำเข็ก จ. พิษณุโลก..ระทึกใจ..เพราะต้องไปยืนรอแพกลางแก่งน้ำเซาะสาดแรงๆ..ครั้งนี้ที่พะโต๊ะ..ต้นน้ำชุมพร..ทำไมต้องใส่ชูชีพด้วยนะ..น้ำเอื่อยไหลรินๆ นั่งกันนานเกือบๆสามชั่วโมง..แพทำด้วยท่อพีวีซี ขนาด 6 นิ้ว ปิดหัวท้ายด้วยฝาของพีวีซีน่ะแหละกลมๆแบบฝาขวดทั่วๆไป..แพที่นั่งคงใช้งานมานาน...นั่งๆไป..เอ..ทำไมก้นเปียกนะ..นั่งไปอีกสักพัก ไอ้หนูคนถ่อแพอายุสัก 14 ปี เพราะอยู่ม.2 เอง..บอกว่า..ช่วยไปนั่งแพโน้นสักคนได้ไหมครับ?...แพเราล้าหลังเรื่อยๆ..แต่แพสุดท้ายยังไม่เข้าโค้งสักที..ปรากฏว่า..แพสุดท้ายที่ไม่โผล่กระแทกกับแก่งหิน...แพหัก..คนบนแพได้รับบาดเจ็บ..มีรถมารับกลับไปรอที่ร้านอาหารแล้ว...ถ้าไม่มีชูชีพ..เพื่อนบางคนอาจจะไปกับสายน้ำเอื่อยๆนั่นแล้ว..ประมาทไม่ได้เลยนะ..น้ำ..ใครจะเที่ยวทางน้ำควรสวมชูชีพให้เรียบร้อยนะคะ